ความอิจฉาริษยาเป็นเรื่องของความก้าวร้าว สันดานดิบ ที่ทำให้มนุษย์อยู่รวมกันได้ยาก ความอิจฉาริษยามีได้ในทุกวงการของสังคมไทยไม่ว่าที่ไหนๆก็ย่อมมีคนอิจฉาและริษยาด้วยกันทั้งนั้น
ตัวอย่างบางคนทำงานดีมีความคิดสร้างสรรค์แต่บางคนทำงานไม่ดีไม่มีความคิดสร้างสรรค์เมื่อบุคคลเหล่านี้มีความอิจฉาเขาก็จะพยายามกลั่นแกล้งหรือรายงาน อีกฝ่าย ที่ทำงานดีกว่า ตน คือไม่อยากเห็นใครได้ดี นั้นเอง สรุปคนที่อิจฉาส่วนใหญ่มักจะเป็นคนไม่อยากเห็นคนอื่นได้ดีเหนือตนเอง
คนที่อิจฉาริษยาจะทั่วๆไปคือสันดานของคนที่อิจฉาและริษยาที่เห็นได้ชัดๆในสังคมปัจจุบันไม่ว่าในวงการใดๆอย่างที่บอกแต่แรก..ความเป็นจริงแล้วมนุษย์มีความอิจฉาริษยาทุกคน ปริมาณมากน้อยต่างกัน
ความอิจฉา ..เป็นความรู้สึกที่ไม่อยากเห็นคนอื่นได้ดี กลัวว่าเขาจะดีเด่นเกินหน้าหรือเท่ากับตน จึงทนไม่ได้
ความริษยา .. เป็นนิสัยที่เวลาเห็นคนอื่นได้ดีแล้วทนไม่ได้ มักจะเกิดลักษณะริษยา อาฆาต คือการคิดแค้น เพราะไม่อยากให้ใครได้ดี
ความอิจฉาริษยาเป็นเรื่องของความก้าวร้าว สันดานดิบ ที่ทำให้มนุษย์อยู่รวมกันได้ยาก ซึ่งตรงข้ามกับคุณธรรม ที่ทำให้มนุษย์อยู่รวมกันได้ดี คือความรัก ความเมตตา กรุณา อดทน อดกลั้น ความยินดี ความเป็นกลาง ซึ่งนับวันจะไม่มีคนสั่งสอน และคนมักจะไม่สนใจทำตาม
ความอิจฉาริษยา:เป็นเรื่องของความก้าวร้าว สันดานดิบ ที่ทำให้มนุษย์อยู่รวมกันได้ยาก ความอิจฉาริษยามีได้ในทุกวงการของสังคมไทยไม่ว่าที่ไหนๆก็ย่อมมีคนอิจฉาและริษยาด้วยกันทั้งนั้น ตัวอย่างบางคนทำงานดีมีความคิดสร้างสรรค์แต่บางคนทำงานไม่ดีไม่มีความคิดสร้างสรรค์เมื่อบุคคลเหล่านี้มีความอิจฉาเขาก็จะพยายามกลั่นแกล้งหรือรายงาน คนที่อิจฉาส่วนใหญ่มักจะเป็นคนไม่อยากเห็นคนอื่นได้ดีเหนือตนเอง คนที่อิจฉาริษยาจะทั่วๆไปคือสันดานของคนที่อิจฉาและริษยาที่เห็นได้ชัดๆในสังคมปัจจุบันไม่ว่าในวงการใดๆ ความเป็นจริงแล้วมนุษย์มีความอิจฉาริษยาทุกคน ปริมาณมากน้อยต่างกัน